สาวเมืองชลคลุ้มคลั่ง จากการกินยาลดความอ้วน 

        เมื่อวันที่ 23 เดือนกุมภาพันธ์  ปี พ.ศ. 2564  ในช่วงเวลาประมาณ 11:00 น เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจจังหวัดชลบุรีได้รับแจ้งเหตุจากชาวบ้านให้ไปช่วยระงับเหตุการณ์หญิงสาวคนหนึ่ง   มีอาการคุ้มคลั่งซึ่งในขณะนี้ทำการขว้างปาข้าวของและถือมีดอีโต้ข่มขู่คนในพื้นที่ซึ่งทางด้านชาวบ้านเองหวั่นกลัวว่าจะมีเหตุร้ายเกิดขึ้นจึงต้องการให้เจ้าหน้าที่รีบลงพื้นที่ไประงับเหตุด่วน 

        สำหรับเหตุการณ์ในครั้งนี้ขึ้นที่ตำบลดอนหัวฬ่อซึ่งสถานที่เกิดเหตุนั้นเป็นห้องเช่าแห่งหนึ่งไม่มีชื่อหอพักด้วยหอพักดังกล่าวนั้นอยู่ใกล้กับอุโมงค์วัดซากสมอเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่กู้ภัยไปถึงยังจุดเกิดเหตุก็พบชาวบ้านมุงดูอยู่เป็นจำนวนมากโดยผู้คุ้มคลั่งนั้นถูกขังอยู่ในห้องเช่าซึ่งชาวบ้านได้มีการล็อคประตูทั้งด้านหน้าและด้านหลังห้องพักเอาไว้แล้ว

       และเมื่อทางเจ้าหน้าที่ตำรวจมองเข้าไปในหน้าต่างเพื่อดูสถานการณ์ภายในห้องเช่าปรากฏว่าหญิงสาวคนดังกล่าวยังคงมีอาการคุ้มคลั่งอยู่และยังมีการขว้างปาข้าวของภายในมือก็ยังคงถือมีดอีโต้และปากตะโกนต่อว่า  ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แบ่งกำลังออกเป็น 2 ฝ่ายโดยฝั่งนึงจะมีการเข้าระงับเหตุทางด้านประตูหลังส่วนอีกกลุ่มหนึ่งนั้นจะเป็นการระงับเหตุทางด้านประตูหน้า

      หลังจากมีการตกลงการทำงานเป็นที่เรียบร้อยแล้ว  ทั้งหมดก็ปฏิบัติการพร้อมกันโดยเปิดประตูทั้งประตูหน้าและประตูหลังพร้อมกันซึ่งทางเจ้าหน้าที่ต้องพากันล้อมวงจับหญิงคุ้มคลั่งคนดังกล่าวใช้ระยะเวลาประมาณ 10 นาทีก็สามารถควบคุมตัวหญิงสาวคนดังกล่าวเอาไว้ได้หลังจากนั้นทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้มีการส่งหญิงสาวคนดังกล่าวนั้นไปที่โรงพยาบาลประจำจังหวัดนั้นก็คือโรงพยาบาลชลบุรีนั่นเอง

       เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการพูดคุยกับทางญาติของหญิงสาวที่มีอาการคุ้มคลั่งทราบว่าหญิงสาวนั้น เป็นผู้ป่วยที่กำลังรักษาอาการป่วยด้านจิตเวชอยู่แล้วแต่ในขณะนี้ไม่ได้ทานยาเนื่องว่ายาหมดทำให้อาการอาจกำเริบและที่สำคัญหญิงสาวที่คลุมข้างนั้นพึ่งซื้อยาลดความอ้วนมากินโดยมีการสั่งซื้อมาจากทางอินเทอร์เน็ตซึ่งมีการสั่งซื้อมากินหลายยี่ห้อทำให้มั่นใจว่าอาจจะมีผลมาจากการลดความอ้วนก็เป็นไป

          เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการตรวจสอบใดที่สาวคนดังกล่าวนั้นได้ยินเห็นว่ามีส่วนผสมของสารต้องห้ามนั่นก็คือสารไซบูทรามีนซึ่งสารชนิดนี้ถูกสั่งห้ามนำเข้ามาภายในประเทศไทยเพราะมีส่วนผสมของตัวยาที่จะทำให้ไปกระตุ้นเกี่ยวกับเรื่องของระบบประสาทดังนั้นเมื่อหญิงสาวคนนี้มีอาการทางประสาทอยู่แล้วเมื่อถูกกระตุ้นและยาจึงทำให้เกิดอาการคุ้มคลั่งได้นั่นเอง 

 

 

สนับสนุนโดย    ซื้อ หวยออนไลน์ รัฐบาล

สาวเตือนภัยให้ระวังชายใส่ชุดคล้ายตำรวจชอบมาขอซื้อบริการทางเพศ

          เหตุการณ์เตือนภัยที่มีการโพสต์กันในโลกออนไลน์อยู่ในขณะนี้เกิดขึ้นที่จังหวัดขอนแก่นโดยมีหญิงสาวคนหนึ่งได้มีการโพสต์ Facebook ส่วนตัวเตือนภัยกับผู้ปกครองและเราสาวที่ไปใช้ถนนบริเวณหน้าโรงเรียนอนุบาลแห่งหนึ่งซึ่งอยู่ในอำเภอเมืองของจังหวัดขอนแก่นโดยระบุว่าโรงเรียนอนุบาลแห่งนี้เป็นโรงเรียนชื่อดังในจังหวัดขอนแก่นเลยทีเดียวสำหรับเรื่องราวเตือนภัยนั้นเธอได้เล่าถึงประสบการณ์ที่เธอได้เจอเองมากับตัวว่าในช่วงเช้าของวันที่ 9 เดือนกันยายนปีพศ2563

เธอได้ตื่นเช้ามาเพื่อส่งรูปเข้าโรงเรียนอนุบาลดังกล่าวหลังจากส่งลูกเข้าโรงเรียนเสร็จเรียบร้อยแล้วจะได้ข้ามถนนหน้าโรงเรียนเพื่อไปกินก๋วยเตี๋ยวข้างทางตรงบริเวณนั้นระหว่างที่นั่งกินก๋วยเตี๋ยวอยู่นั้นก็มีผู้ชายคนหนึ่งมีลักษณะผอมสูงอายุน่าจะราวๆ 35-40 ปี ได้เข้ามาพูดคุยกับเธอซึ่งชายคนดังกล่าวนั้นใส่เครื่องแบบคล้ายกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินลักษณะการพูดคุยของชายคน

ดังกล่าวนั้นพูดในเชิงลวนลามและมีการ ขอซื้อบริการทางเพศจากเธออีกด้วยทำให้เธอรู้สึกหวาดกลัวในขณะเดียวกันก็รู้สึกไม่พอใจกับการกระทำของชายคนดังกล่าว สุดท้ายเธอทนไม่ไหวจึงได้หยิบโทรศัพท์มือถือที่อยู่ในกระเป๋าขึ้นมาเพื่อถ่ายรูปชายคนดังกล่าวซึ่งเมื่อชายคนดังกล่าวนั้นเห็นก็ได้รีบเดินออกจากร้านไปทันที

    ซึ่งหลังจากที่เธอกลับมาถึงที่บ้านแล้วเธอจึงได้มีการโพสต์เตือนภัยเรื่องราวนี้เพื่อเตือนให้กับผู้ปกครองที่มาส่งบุตรหลานให้ระมัดระวังชายคนดังกล่าวเพราะบริเวณนี้เป็นบริเวณที่เด็กนักเรียนมักจะมาวิ่งเล่นกันอยู่เป็นประจำซึ่งอาจจะเกิดอันตรายกับเด็กได้รวมถึงว่าจะมีผู้ปกครองบุตรหลานเวลาเลิกเรียนเป็นประจำเช่นเดียวกันอย่างไรก็ตามเมื่อมีการแชร์ข้อความนี้ออกไปมีคนเข้ามาวิพากษ์วิจารณ์เรื่องนี้เป็นอย่างมาก

รวมถึงมีแม่ค้าแถวนั้นให้ข้อมูลด้วยว่าชายคนดังกล่าวนั้นมีนิสัยมักจะไปขอซื้อบริการทางเพศกับผู้หญิงที่ตนเองเห็นเป็นประจำซึ่งมีเจ้าหน้าที่ตำรวจเคยเรียกไปตักเตือนว่ากล่าวพฤติกรรมดังกล่าวแล้วหลายครั้งแต่ชายคนดังกล่าวก็ยังไม่หยุดพฤติกรรม และจากข้อมูลของแม่ค้าได้บอกว่าชายคนดังกล่าวนั้นที่จริงแล้ว

ไม่ใช่เจ้าหน้าที่ตำรวจแต่เป็นเพียงแค่อาสาตำรวจเท่านั้นซึ่งการกระทำของชายคนดังกล่าวนั้นทำให้คนที่ไม่รู้จักคิดว่าชายคนดังกล่าวเป็นนักบวชและทำให้เสียภาพพจน์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจของเมืองขอนแก่นเป็นอย่างมากเลยทีเดียวจึงหวังว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้นจะลงมาจัดการผู้ชายคนดังกล่าวนี้ไม่ให้ไปวุ่นวายกับหญิงสาวคนอื่นๆอีกต่อไป 

 

สนับสนุนโดย  แทงหวยออนไลน์ไม่มีขั้นต่ำ

ถูกเพื่อนแกล้งจนอาการโคม่า และแถมเป็นลมเพื่อนยังแกล้งแต่งหน้าศพให้

               ที่จังหวัดนครพนมมีผู้ปกครองท่านหนึ่งได้มีการ โพสต์  Facebook เล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับหลานชายของเขาในขณะที่อยู่ในรั้วโรงเรียนให้ผู้คนในโลกออนไลน์ได้ฟังด้วยเหตุการณ์ดังกล่าวถูกระบุว่าเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 28 เดือนสิงหาคมปีพศ2563 ซึ่งได้มีการเล่าว่าในวันดังกล่าวนั้นหลานชายกำลังนั่งเรียนในห้องเรียนกับเพื่อนๆซึ่งในช่วงเวลาดังกล่าวเพราะเป็นช่วงของการจัดทำกิจกรรม

ซึ่งในเวลานั้นไม่มีคนคุยควบคุมนักเรียนอยู่ที่ห้องเลยโดยหลานชายของเขานั้นเรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1  สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น เกิดขึ้นเพราะว่าเพื่อนๆต่างพากันรุมแกล้งหลานชายด้วยการเอาน้ำหอมมาฉีดใส่ซึ่งหลานชายนั้นได้บอกกับเพื่อนไปแล้วว่าตนเองนั้นแพ้น้ำหอมและหลานชายก็มีโรคประจำตัวอยู่คือโรคหืดหอบ

แต่ยิ่งบอกเพื่อนว่าไม่ชอบน้ำหอมเลิกกับยิ่งแกล้งด้วยการฉีดใส่มากยิ่งขึ้นๆจนในที่สุดหลานชายก็เป็นลมหมดสติ แต่ตอนที่เพื่อนๆในห้องจะช่วยกันปฐมพยาบาลให้หลานชายฟื้นเด็กๆกลับช่วยกันอุ้มหลานชายมาวางไว้บนโต๊ะหลังจากนั้นก็เอาแป้งมาทาหน้าทำเหมือนกับว่าเป็นการแต่งหน้าศพและหัวเราะสนุกสนานชอบใจกันยกใหญ่จะมีเด็กคนหนึ่ง

ซึ่งเห็นว่าหลานชายไม่ยอมลุกขึ้นมาสักทีจึงวิ่งไปบอกครูและจึงได้พาตัวเด็กส่งโรงพยาบาลซึ่งในขณะนี้การใช้ของเขาเข้ารับการรักษาตัวอยู่ภายในโรงพยาบาลยังไม่สามารถกลับมาได้ด้วยคุณหมอต้องการเช็คสมองเนื่องจากว่าได้รับผลกระทบตอนล้มหัวฟาดกับพื้นดังนั้นจึงจำเป็นต้องมีการส่งตรวจสอบสมองอย่างละเอียดอีกทีหนึ่ง

           สำหรับเรื่องราวที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ทางด้านผู้ปกครองของเด็กได้ไปเห็นภาพที่เด็กนำมาโพสต์ลงใน Facebook ของเด็กๆเองซึ่งเมื่อผู้ปกครองได้เห็น ก็รู้สึกเสียใจและสงสารหลานของตนเองเป็นอย่างมากที่ถูกเพื่อนรุมแกล้งแบบนี้และที่สำคัญผู้ปกครองไม่พอใจที่โรงเรียนไม่มีคุณครูคอยดูแลในขณะที่เด็กๆอยู่ภายในโรงเรียนจนทำให้เกิดปัญหา

ดังกล่าวขึ้นทั้งนี้เมื่อไปถามความรับผิดชอบกับทางโรงเรียนทั้งโรงเรียนยังไม่สามารถให้คำตอบได้และเมื่อทางผู้ปกครองของเด็กที่เป็นลมไปแจ้งความกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ยังไม่ยอมรับแจ้งความอีกเลยบอกว่าให้ไปตกลงกันเองที่โรงเรียนเพราะเป็นการเล่นกันของเด็กๆเขาจึงไม่รู้ว่าจะหันหน้าไปพึ่งใครจึงได้มีการโพสต์ข้อความลงใน Facebook

เพื่อสอบถามความคิดเห็นของคนในโลกออนไลน์ว่าเขาควรจะแก้ไขปัญหาอย่างไรดีซึ่งหลังจากที่ข้อความนี้ถูกเผยแพร่ออกไปในโลกออนไลน์ต่างก็พากันไม่พอใจกับพฤติกรรมของเด็กนักเรียนรวมถึงพฤติกรรมของโรงเรียนที่ปล่อยปละละเลยเด็กๆจะมีเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นจึงพากันไปถล่ม Facebook ของโรงเรียนในขณะนี้ทางโรงเรียนจำเป็นต้องปิด Facebook ชั่วคราวเพื่อหนีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

 

สนับสนุนโดย    แทงหวยออนไลน์ยังไง

ชายขับเบนซ์ทำร้ายคนแก่วัย 69 พร้อมทั้งบังคับให้ไปกราบขอโทษแม่ แจ้งความแล้วคดีไม่คืบ

              ปัญหาการทะเลาะวิวาทกันบนท้องถนนเป็นปัญหาที่เรามักจะได้ยินและบางครั้งก็อาจจะเคยเจอกับตัวเองเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นประจำทุกวันโดยเฉพาะในช่วงเวลานี้ที่คนในสังคมไทยกำลังมีภาวะความตึงเครียดทั้งในเรื่องของการทำงานและในเรื่องของปัญหาเศรษฐกิจเงินทองเมื่อออกมาใช้รถใช้ถนนบนท้องถนนก็มักจะนำปัญหาพวกนั้นมาระบายเวลาที่ขับรถแล้วไปเจอรถของคนอื่นที่ขับแล้วไม่ถูกใจเรายังเช่นปัญหาที่ล่าสุดเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 17 เดือนกรกฎาคมปีพศ2563

มีชายชราคนหนึ่งอายุเพียงแค่ 69 ปีเท่านั้นก็ได้ไปแจ้งความที่สถานีตำรวจว่าเขานั้นถูกชายวัยกลางคนข่มขู่และทำร้ายร่างกายให้เขาไปขอโทษแม่ของชายคนดังกล่าวโดยบอกว่าเขานั้นเป็นสาเหตุให้แม่ของเขาหัวกระแทกกับรถโดยบอกว่าเขานั้นขับรถปาดหน้ารถของชายคนที่ก่อเหตุ

              สำหรับเรื่องราวที่เกิดขึ้นนี้เกิดขึ้นที่จังหวัดขอนแก่นเมื่อคุณลุงวัย 69 ปีได้ขับรถออกจากบ้านของตนเองไปทำธุระเพื่อไปทำการต่อ พรบ. รถยนต์ ซึ่งคุณลุงวัย 69 ปีนี้เมื่อขับรถมาถึงร้านที่ตนเองต้องมาทำธุระก็จอดรถทันทียังไม่ทันที่จะได้เดินเข้าร้านก็มีชายคนหนึ่งขับรถเข้ามาตีคู่ด้วยอาการไม่พอใจและเมื่อลงรถมาก็มาทำร้ายด้วยการตบหน้าคุณลุงวัย 69 ปี 1 ครั้งพร้อมทั้งกับบอกให้คุณลุงวัย 69 ปีนั้น

เดินไปขอโทษแม่ของตนเองที่นั่งอยู่ในรถโดยให้เหตุผลว่าคุณลุงวัย 69 ปีขับรถไม่ระวังซึ่งขับรถปาดหน้ารถเขาทำให้เขาต้องเบรกกะทันหันมีผลให้แม่ของเขาแล้วหัวไปโขกกับกระจกหน้ารถได้รับบาดเจ็บซึ่งคุณลุงก็เดินทางไปที่รถและกล่าวขอโทษหญิงชราคนดังกล่าวโดยเธอได้บอกว่าเธอไม่ได้เป็นอะไรมากเมื่อขอโทษเสร็จแล้วใช่คนดังกล่าวยังไม่มีการต่อว่าด่าทอลงวัย 69 ปีอีกทั้งยังพูดข่มขู่ว่าถ้าหากตรงนั้นไม่แก่ยังเป็นวัยรุ่นอยู่เขาจะทำร้าย

โดยการฆ่าให้ตายในที่เกิดเหตุเลยทีเดียวซึ่งในช่วงเวลานั้นคุณตาวัย 69 ปีไม่ได้มีการตอบโต้อย่างไรหลังจากที่ขอโทษกันเสร็จเรียบร้อยแล้วใช่คนดังกล่าวก็ขับรถออกไปคุณลุงจึงได้ขอข้อมูลจากกล้องวงจรปิดที่หน้าร้านเพื่อไปแจ้งความที่สถานีตำรวจซึ่งตั้งแต่แจ้งความมาตั้งแต่วันที่ 17 จนถึงวันนี้ผ่านไป 3 วันแล้ว

แต่คดีก็ยังไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใดคุณตาวัย 69 ปีจึงได้ร้องขอให้นักข่าวช่วยติดตามข่าวดังกล่าวให้ด้วยเพราะกลัวว่าเรื่องจะเงียบหายไปซึ่งขนาดนี้ตัวคุณตาเองได้มีการแจ้งความและไปตรวจร่างกายเป็นที่เรียบร้อยแล้วเพราะผลพวงจากการที่ถูกตบหน้านั้นทำให้บริเวณแก้มบวมช้ำและคุณตายยังยืนยันด้วยว่าคดีนี้คุณตาจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุดสำหรับเรื่องดังกล่าวที่เกิดขึ้นนี้เกิดขึ้นเพราะอารมณ์รุนแรงของคนที่ใช้รถใช้ถนนถ้าหากพูดกันดีๆ ก็คงจะไม่มีปัญหาถึงขนาดที่จะต้องแจ้งความและดำเนินคดีกันแบบนี้

 

สนับสนุนโดย  ซื้อ หวยออนไลน์ รัฐบาล

ปัญหาเศรษฐกิจร้านเสื้อผ้าไก่ 3 ทำยอดรายได้หลักหมื่นปัจจุบันไม่มีรายได้เข้าร้าน

         ในสถานการณ์ตอนนี้ถึงแม้ว่าทางรัฐบาลเองจะออกมาประกาศให้ร้านค้าสามารถกลับมาขายสินค้ากันได้ตามปกติแล้วแต่ร้านค้าส่วนใหญ่ก็ยังประสบปัญหาว่าไม่มีลูกค้ามาซื้อสินค้าภายในร้านอย่างเช่นร้านไก่ 3 ซึ่งได้มีการโพสต์ Facebook ออกมาบรรยายสิ่งที่ตนเองกำลังจะอยู่ในขณะนี้ซึ่งเป็นความรู้สึกท้อแท้ที่เจ้าของร้านคนนึงที่ต้องเจ็บเจอโดยทางเจ้าของร้านไก่ 3 ออกมาระบุว่าตัวเขาเองนั้น

เข้าใจเกี่ยวกับเรื่องของเศรษฐกิจเป็นอย่างดีเพราะขายสินค้าได้เสื้อผ้ามานานหลายปีก่อนหน้านี้เขาบอกได้เลยว่าร้านค้าของเขานั้นบูมมากๆเพราะลูกค้าของเขานั้นมีมากมายหลายเชื้อชาติเลยทีเดียวลูกค้าที่มาซื้อสินค้าของเขาส่วนใหญ่นั้นจะชอบในรูปลักษณ์ของแบรนด์เสื้อผ้าที่ทางร้านออกแบบเองออกแนวตลกโปกฮา

ซึ่งลูกค้านั้นก็จะมีทั้งญี่ปุ่นเกาหลีจีนหรือแม้แต่พวกโซนยุโรปหรือพวกเวียดนามก็มีเข้ามาซื้อลูกค้าไทยก็จะมีนานๆเข้ามาซื้อทีส่วนใหญ่ลูกค้าไทยอย่างนี้จะมีการไปออกบูธแล้วก็มีการซื้อเสื้อนานๆทีถึงจะเบิร์นมาซื้อที่ร้านของไก่ 3 เองซึ่งโดยปกติแล้วทางร้านจะสามารถขายสินค้าได้กำไรวันละ 10000 บาทเลยทีเดียวแต่หลังจากที่สภาวะเศรษฐกิจตกต่ำมีไวรัสโคโรน่าเข้ามาทำให้สินค้าภายในร้านนั้นขายแทบไม่ได้ปัจจุบันนี้ขายได้เป็น 0 บาทเป็นเจ้าของร้านเอง

ก็ได้มีการงัดทุกวิธีออกมาเพื่ออยากจะเรียกลูกค้าแล้วไม่ว่าจะเป็นการเปิดขายของออนไลน์หรือแม้แต่การลดแลกแจกแถมแต่อย่างไรก็ตามตอนนี้สถานการณ์ทางการเงินของคนไทยหลายๆคนนั้นก็คงไม่ดีแล้วลูกค้าชาวต่างชาติก็ไม่สามารถเดินทางเข้ามาประเทศไทยได้ทำให้ทางร้านได้รับผลกระทบมากซึ่งจริงๆแล้วทางเจ้าของร้านได้บอกว่าเขาทราบถึงปัญหาสถานการณ์เศรษฐกิจมาสักระยะแล้วเพราะตั้งแต่กลางปีที่แล้วยอดการขายสินค้าของเขานั้นตกมากโดยถ้าคิดเปอร์เซ็นต์ก็ตกไปถึง 30 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว

บางวันก็ขายของไม่ได้เลยซึ่งเขาก็ไม่ได้สนใจอะไรเพราะว่าบางวันก็ขายของได้ดีอยู่แต่มาตอนนี้หลังจากที่มีสถานการณ์ไวรัสโคโรน่าเข้ามาและเพิ่งเปิดให้ทางร้านขายของได้ตอนนี้ร้านของไก่ 3 ไม่สามารถขายของได้เลยหลายคนไม่มีการมาบอกวิธีการ root นี่นั่นซึ่งทางร้านบอกเลยว่าทำมาหมดแล้วแต่การทำเหมือนกับคนอื่นๆนั้นไม่ใช่ว่าทุกร้านจะสามารถขายของดินได้เหมือนกันหมด

ดังนั้นสิ่งที่หลายคนออกมาแนะนำทางด้านไก่ 3 นั้นและบอกไก่ 3 ไม่ยอมทำตามเขาบอกแล้วว่าหากคุณไม่เป็นเจ้าของร้านคุณจะไม่รู้หรอกว่าตัวเขาเองนั้นพยายามเอาตัวรอดมากแค่ไหน อย่างไรก็ดีตอนนี้เขารู้สึกว่าเขารู้สึกแย่มากๆมีคนหลายๆคนได้ออกมาต่อว่าการไม่สู้ชีวิตหรือการออกมาบนเรื่องราวของเขาซึ่งเขาอยากจะบอกว่ามันเป็นธรรมดา ที่ตัวเขาเองอยากจะออกมาระบายถึงความทุกข์ในใจของเขาบ้างเขาไม่สามารถที่จะออกมาส่งพลังบวกให้กับคนอื่นได้ในขณะที่ตัวเองนั้นยังไม่ได้รู้สึกถึงพลังบวกในตัวเองเลย

 

สนับสนุนโดย  ถ่ายทอดสดหวยฮานอยวันนี้

คนขับแท็กซี่ตายคาปั้มน้ำมัน

             เมื่อวันที่ 3 เดือนพฤศจิกายนปีพ.ศ 2563 เวลาประมาณ 08:00 น.   เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจปากเกร็ดได้รับแจ้งเหตุว่ามีคนพบศพคนเสียชีวิตอยู่ภายในปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง   เลยปั้มน้ำมันดังกล่าวนั้นอยู่บนเส้นถนนแจ้งวัฒนะ    อำเภอปากเกร็ด   จังหวัดนนทบุรี  โดยสมชายคนดังกล่าวนั้นนอนเสียชีวิตอยู่ภายในรถแท็กซี่คันสีชมพู-ขาว  สภาพศพนั้นเป็นการนอนเสียชีวิตปกติไม่มีร่องรอยการถูกทำร้ายร่างกายแต่อย่างใด

         เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางไปถึงพร้อมกับกู้ภัยพยายามเปิดประตูรถแสงไม่สามารถเปิดได้เนื่องจากว่าประตูรถถูกล็อคจากด้านในเจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงได้มีการใช้อุปกรณ์มางัดแงะประตูจนสามารถเปิดรถได้ภายในรถไม่มีร่องรอยความผิดปกติแต่อย่างใดสภาพศพของผู้เสียชีวิตนั้นเป็นการนอนหลับปกติโดยมีการปรับเอนเบาะนอน   

         ซึ่งเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการค้นหลักฐานภายในรถแท็กซี่พบว่าชายคนดังกล่าวนั้นคือนายสมภพ  มิ่งพันธ์ สำหรับการเสียชีวิตในครั้งนี้เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่าอาจจะเสียชีวิตเนื่องจากว่ามีโรคประจำตัวเนื่องจากเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการขอกล้องวงจรปิดของปั๊มน้ำมันมาทำการตรวจสอบพบว่าแท็กซี่ของนายสมภพนั้นขับมาจอดที่บริเวณหน้าห้องน้ำหลังจากนั้นนายสมภพก็เดินเข้าห้องน้ำตามปกติ

           ซึ่งภายในกล้องวงจรปิดจะเห็นได้ว่านายสมภพเดินเข้าออกห้องน้ำอยู่ประมาณ 2 ครั้งหลังจากนั้นก็กลับมานอนที่รถและไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆทั้งสิ้นจนรุ่งเช้าเด็กปั๊มน้ำมันเห็นความผิดปกติเนื่องจากว่ารถแท็กซี่จอดอยู่นานแล้วจึงได้เข้ามาดู  และพอเรียกแล้วไม่มีการตอบสนองจึงไม่มีการประสานงานให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาช่วยดูยังจุดเกิดเหตุนั่นเอง

           อย่างไรก็ตามตอนนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการให้ทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยนำร่างของผู้เสียชีวิตไปที่โรงพยาบาลเพื่อให้เจ้าหน้าที่ของทางโรงพยาบาลทำการตรวจสอบสาเหตุการเสียชีวิตอีกครั้งหนึ่ง  

           แต่จากการที่เจ้าหน้าที่ตำรวจให้ข้อมูลเบื้องต้นพบว่ารถคันดังกล่าวที่จะอยู่นั้นมีการล็อคกระจกและประตูมิดชิดรวมถึงไม่ได้มีการสตาร์ทเครื่องเอาไว้ทำให้อาจจะเป็นไปได้ว่าผู้เสียชีวิตนั้นขาดอากาศหายใจขณะที่นอนหลับอยู่ในรถเนื่องจากว่าไม่ได้มีการเปิดกระจกเพื่อให้อากาศถ่ายเทได้อีกทั้งไม่ได้มีการเปิดแอร์เอาไว้จึงเป็นไปได้ว่าระหว่างที่นอนหลับนั้นไม่มีอากาศหายใจและนอนหลับจนตายนั่นเอง  ซึ่งอาจจะเป็นไปได้ว่านายสมภพอาจจะตั้งใจที่จะฆ่าตัวตายด้วยการปิดกระจกรถนอนหลับก็เป็นไปได้

     ซึ่งสำหรับสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงนั้นคงต้องรอผลการชันสูตรจากทางโรงพยาบาลอีกครั้งหนึ่งว่าในที่สุดแล้วนายสมภพเสียชีวิตจากการมีโรคประจำตัวหรือว่าเสียชีวิตจากการขาดอากาศหายใจกันแน่

 

สนับสนุนโดย  แทงหวยจับยี่กี

รูปปั้นในประเทศเกาหลีใต้ จ่อส่งผลกระทบความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ

              กำลังมีข้อพิพาทคุยกันเกิดขึ้นระหว่างประเทศเกาหลีใต้และประเทศญี่ปุ่นกรณีที่ประเทศเกาหลีใต้นั้นได้มีการนำรูปปั้นชายหญิงคู่หนึ่งมาตั้งไว้ที่สวนสาธารณะแห่งหนึ่งโดยรูปปั้นดังกล่าวนั้นจะเป็นรูปปั้นของผู้หญิงคนหนึ่งที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ซึ่งมีการระบุว่ารูปปั้นผู้หญิงนั้นเป็นรูปปั้นของผู้หญิงคนหนึ่งที่มีอาชีพเป็นโสเภณีในขณะที่รูปปั้นผู้ชายนั้นอยู่ในลักษณะของการคุกเข่าก้มหัวอยู่กับพื้นให้กับรูปปั้นผู้หญิงรูปปั้นผู้ชายนั้น

ถูกระบุว่าเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลแต่ไม่ได้ระบุว่าอยู่ตำแหน่งไหนซึ่งเมื่อมีคนไปมองดูหน้าตาของรูปปั้นผู้ชายนั้นทุกคนต่างก็ออกมาพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าหน้าตาคล้ายกับรัฐมนตรีของประเทศญี่ปุ่นคนปัจจุบันนั่นก็คือ นาย อาเบะนั่นเอง และเมื่อเรื่องราวที่ถูกแชร์ขึ้นมาเป็นเรื่องราวที่มีการพูดถึงกันเป็นอย่างมาก

โฆษกของรัฐบาลญี่ปุ่นก็ได้ออกมาพูดถึงเรื่องนี้ด้วยเช่นเดียวกันว่าการนำรูปปั้นดังกล่าวมาตั้งไว้นั้นจะไม่เกี่ยวกับประเทศญี่ปุ่นหากลูกบ้านดังกล่าวนั้นไม่มีใบหน้าคล้ายคลึงกับนายกรัฐมนตรีของประเทศญี่ปุ่นแต่ถ้าหากมีการนำแบบอย่างจากหน้าตาของนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นมาสร้างเป็นรูปปั้นผู้ชายแล้วจะเกิดผลกระทบต่อความสัมพันธ์ของสองประเทศอย่างแน่นอนสำหรับรูปปั้นที่มีการนำมาวางไว้ในสวนสาธารณะนั้นผู้ที่รังสรรค์ผลงานได้ออกมาพูดถึงรูปปั้นนี้ว่าเขาตั้งใจที่จะปั้นรูปปั้นดีขึ้นมา

โดยให้ฝ่ายหญิงนั้นเป็นตัวแทนของเด็กหญิงโสเภณีจากทุกประเทศทั่วโลกซึ่งในช่วงสงครามโลกนั้นถูกจับตัวมาให้บำเรอกามทหารของประเทศญี่ปุ่นและรูปปั้นผู้ชายนั้นทางผู้ที่ปั้นผลงานนี้ขึ้นมาไม่ได้เจาะจงว่าจะต้องเป็นนายกรัฐมนตรีของประเทศญี่ปุ่นเท่านั้นโดยมีการระบุว่าจะเป็นใครก็ได้ที่เป็นผู้ชายคนหนึ่งที่มีอำนาจมีตำแหน่งหน้าที่ใหญ่โตของประเทศญี่ปุ่นออกมาคุกเข่าขอโทษเด็กผู้หญิงที่ถูกลักพาตัวมาในช่วงสงครามโลกเท่านั้น

        สำหรับเรื่องราวของรูปปั้นในครั้งนี้หลายฝ่ายมองว่าน่าจะกระทบกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศอย่างแน่นอนซึ่งความหมายของรูปปั้นได้มีการพูดการที่ผู้มีตำแหน่งใหญ่โตคนอย่างในประเทศญี่ปุ่นก้มหัวขอโทษหญิงสาวของคนเกาหลีแน่นอนว่าในมุมมองของคนญี่ปุ่นเองก็คงจะไม่พอใจกับการนำรูปปั้นนี้มาวางไว้

ซึ่งถ้าหากว่ารูปปั้นผู้ชายไม่ได้หน้าตาเหมือนกับนายกรัฐมนตรี  อาเบะก็อาจจะไม่กระทบความรุนแรงถึงความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศมากขนาดนี้แต่หากใครได้เห็นผลงานจริงๆก็จะรู้ว่านี่คือการนำหน้าตาของนายกรัฐมนตรีของประเทศญี่ปุ่นคนปัจจุบันมาเป็นแบบในการปั้นเชื่อว่าปัญหาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศนั้นเกิดขึ้นอย่างแน่นอน

 

สนับสนุนโดย  ซื้อหวยออนไลน์ เว็บไหนดี