เทคนิค รีดหุ่นสวย สไตล์ไอดอลเกาหลี !

เพื่อนๆหลายๆคนที่มีไอดอลในดวงใจ และอยากจะมีหุ่นแบบพวกเค้าแล้วละก็ วันนี้เรามีเทคนิค รีดหุ่นสวยๆ สไตล์ไอดอลเกาหลี มาฝากกันละ เพราะว่ากว่าพวกเค้าจะมีหุ่นสวยแบบนี้ได้ เค้าก็มีเทคนิคในการดูแลรูปร่างตัวเองเหมือนกันนะ ใครที่กำลังลดน้ำหนักหรือกำลังจะเริ่มลดน้ำหนัก ลองมาอ่านเทคนิคของไอดอลสาวๆเกาหลีกัน อ่านแล้วเราอาจจะลดน้ำหนักได้ง่ายขึ้นได้ด้วยนะ ไปอ่านกันเลยจ้า ทำง่ายๆ เพื่อหุ่นสวยสไตล์ไอดอลเกาหลีกัน

ดื่มน้ำเปล่าให้ได้ 2 แก้วกินอาหาร

ไอดอลคนสวยแต่ละคนเค้ามีวิธีลดน้ำหนักหรือลดความอ้วนกัน โดยเน้นเรื่องปรับนิสัยการกินกันละ สไตล์ไอดอลกลัวการกินแบบหยุดไม่ได้เหมือนคนทั่วไปนั้นละ เค้าเลยเลือกวิธีการดื่มน้ำเปล่า ให้ได้ 2 แก้วแล้วค่อยกินอาหารนั้นเอง เพราะเค้าต้องการให้น้ำที่ดื่มนั้นไปแทนที่อาหารจะได้อิ่มเร็วขึ้น และการดื่มน้ำเยอะ เค้าเชื่อว่าผิวพรรณจะสวยอีกด้วย

กินอาหารให้ช้า เคี้ยวอาหารให้ช้าและละเอียดๆ

ไอดอลเกาหลี เค้าก็มีเทคนิคในการกินอาหารนั้นโดยเน้นการกินให้ช้าๆ และเคี้ยวให้ละเอียด เพราะว่าการกินอาหารแบบเคี้ยวช้าๆ นั้นจะทำให้ระบบการย่อยทำงานได้ดีและยังช่วยทำให้ร่างกายสั่งไปที่สมองอิ่ม โดยที่ร่างกายเราไม่ได้อิ่มจนเกินไปด้วยนะ เพราะร่างกายกว่าจะสั่งให้สมองว่าเราอิ่มนั้นจะใช้เวลาประมาณ 20 นาที ดังนั้นกินช้าจะช่วยลดปริมาณการกินได้เยอะเลย

เปลี่ยนจานอาหารจากจานใหญ่เป็นจากเล็กลง 

การที่จะช่วยให้ไอดอลนั้นไม่กินเยอะมากเกินไป เค้ามีเทคนิคเรื่องการกินโดยการเปลี่ยนจากจานใหญ่มาเป็นจานที่เล็กลง จะช่วยลดปริมาณอาหารที่เรากินไปได้เยอะเลยนะ เพราะว่าจานเล็กก็จะทำให้อาหารในจานเราดูเต็มและดูเยอะเป็นเทคนิคที่ทำให้รู้สึกว่าเราได้กินอาหารได้เยอะอีกด้วย

กินเสร็จและไปแปรงฟันเลย 

การที่เพื่อนๆเห็นไอดอลหุ่นเพรียวนั้น รู้หรือเปล่าว่า เค้ากินเสร็จ เค้าจะรีบไปแปรง

ฟัน เพื่อไม่ให้มีความอยากอาหารคาวหรือหวานต่อนั้นเอง เป็นเทคนิคตัดรสชาติในปากนั้นเอง จะเห็นได้ว่าเทคนิคนี้นั้นช่วยจริงๆ เพราะว่าการแปรงฟันเสร็จปากเราจะสดชื่นและลดความอยากอาหารได้ดี

เตรียมของว่างระหว่างวันด้วย 

การที่สาวๆไอดอลต้องคุมอาหารนั้น เค้ามีเทคนิคในการกินระหว่างวัน โดยจะเตรียมของว่างระหว่างวันไว้เลย เพราะว่าเค้าจะมีแคร๊กเกอร์หรือธัญพืชบาร์ หรือถั่วต่างๆ ไว้กินเวลาที่ร่างกายเริ่มหิว เพราะกันการหิวจัดเกินไปนั้นเอง

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย  หวยหุ้นฮั่งเส็ง

ยาคุมกำเนิด

วิธีการคุมกำเนิดเป็นเรื่องที่เราต้องรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้เพราะว่าการที่เราต้องคุมกำเนิดเพราะว่าการที่เรากินยาเราต้องมีความรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้เพราะว่าเรื่องนี้การที่เรากินยาเป็นเรื่องที่เราต้องรู้เพราะว่ายาคุมมีหลายอย่างในบ้านเราเพราะว่ามีมากมายเพราะว่าการที่เรารู้ตัวว่าการที่เราจะต้องท้องเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับการตกไข่

ยาคุมกำเนิดชนิดแผง 21 เม็ดกับ 28 เม็ด มีความต่างกันแบบไหน

โดยที่ยาคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนนั้นมีทั้งหมด 21 เม็ดและ 28 เม็ด นั้นมีความแตกต่างกันนั่นเอง  

  • ยาคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนแบบแผง 21 เม็ด ในเรื่องของตัวยาเป็นเรื่องของการที่เราต้องรับประทานเพราะว่าในตัวยาแต่ละเม็ดเพราะว่าเราต้องกินกันทุกวัน วันละหนึ่งเม็ดซึ่งเราจะกินทุกวันและเมื่อหมดแล้วเราต้องหยุดกินสัก เจ็ดวันหรือว่าวันที่สามประจำเดือนจะมาเอง  
  • ยาคุมกำเนิด 28 เม็ด  โดยเป็นเรื่องของฮอร์โมนจำนวน 21เม็ด และที่เหลืออีก 7 เม็ด เป็นตัวยาที่เราเรียกอีกอย่างคือว่าเป็นยาแป้งที่เราจะต้องกินทุกวัน  เมื่อกินประมาณสักสามเม็ดประจำเดือนของเราก็จะมาและเมื่อประจำเดือนหมดเราก็เริ่มที่จะกินแผงใหม่ทันที  

ในเมื่อเวลาที่เรากินยาคุมครั้งแรกบางคนก็อาจจะมักอาการข้างเคียงอย่างเมาวิงเวียง  อาการเหมือนคนจะเป็นลม  หรือว่ามีอาการที่เรารู้สึกวาบหวิว หรือว่าเป็นอาการของคนที่นอนพักผ่อนไม่เพียงพอ ซึ่งคนส่วนใหญ่จะมีอาการนี้กันทั้งนั้นเพราะว่าบางคนจะมีอาการนี้ประมาณวันของการกินยาคุมในแผง  และเมื่อเรากินยาคุมใหม่เราก็จะมีอาการอย่างนี้เป็นเวลาทั้งหมดสามเดือน 

หรือว่าบางคนก็มีอาการอย่างที่เราบอกคือว่ามีอาการแพ้ยาคุม  และเมื่อเรากินเข้าไปจะเกิดอาการเหมือนคนไม่สบายพักผ่อนไม่เพียงพอนั่นเอง   ดังนั้นเมื่อเราเปลี่ยนยี่ห่อใหม่ก็อาจจะไม่มีอาการนี้เกิดขึ้นก็ได้เพราะว่าเราอาจจะกินที่มีตัวยาเป็นฮอร์โมนรวมด้วยนั่นเอง    เพราะว่าเมื่อครั้งแรกที่เรากินเราอาจจะเกิดอาการวิงเวียนหัว มีอาการคลื่นไส้  เจ็บหน้าอก  อย่างนี้เป็นต้น

  เพราะว่าอาจจะเกิดอาการผลข้างเคียงดังกล่าวอย่างที่เรากล่าวมาข้างต้นนั่นเอง  แต่ว่าเมื่อเราได้กินไปสักพักหรือว่าสักระยะอาการเหล่านี้ก็จะค่อยคลายหายไปเอง  หรือว่าเราจะเปลี่ยนยี่ห้อในการกินก็ได้เพียงแค่เราปรึกษาแพทย์หรือผู้ที่เชียวชาญ ในเรื่องนี้นั่นเอง  เขาก็จะให้คำแนะนำกับเราด้วยเพราะว่าตัวยาบางตัวอาจจะไม่เหมาะกับเราก็ได้ ดังนั้นเราก็ควรที่จะสังเกตอาการของตัวเองอย่างนี้เป็นต้น  

 

ได้รับการสนับสนุนโดย  วิธีเล่นหวยหุ้น มือใหม่

วิธีแก้ปัญหาผมบางและขาดร่วงได้อย่างมีประสิทธิภาพ

เป็นปัญหาเกี่ยวกับอาการผมขาดหลุดร่วงจากสาเหตุที่เราคิดว่าเกิดจากพันธุกรรมไม่ว่าจะเป็นเกี่ยวกับเรื่องฮอร์โมนหรือว่าความเครียดหรือการพักผ่อนที่ไม่เพียงพอซึ่งในวันนี้เราจะมาบอกเคล็ดลับในการช่วยการแก้ปัญหาเกี่ยวกับผมร่วงได้นั่นเองโดยรู้ว่าจะทำให้สาวๆคนไหนที่มีอาการเกี่ยวกับผมร่วงมาบรรเทาอาการผมขาดหลุดร่วงและมีวิธีไหนบ้างมาดูกัน

  • เราไม่ควรที่จะสระผมด้วยน้ำอุ่น  เพราะว่าการที่เราสระผมด้วยน้ำอุ่นนั้นอาจจะเกิดทำให้เส้นผมหรือหนังหัวของเราเกิดอาการแห้งและแตกปลายได้อีกทั้งยังทำให้ศีรษะของเราแห้งตกสะเก็ดส่งผลให้ผมของเรารู้สึกอ่อนแอและเกิดอาการขาดหลุดร่วงได้ง่ายนั่นเองดังนั้นเราจึงไม่ควรที่จะสระผมด้วยน้ำอุ่นเป็นเวลาบ่อยๆหรือทุกวันนั่นเอง
  • การเช็ดผม ในเมื่อเวลาที่เรากำลังสระผมอยู่เราก็จะต้องมีการเช็ดผมเพื่อที่ให้ผมของเราแห้งแต่ว่าในการที่เราเช็ดผมโดยเป็นการใช้วิธีเช็ดอย่างแรงๆก็สามารถที่จะทำให้ผมขาดหลุดร่วงได้ดังนั้นในขณะที่เราเช็ดผมเราควรที่จะค่อยๆเช็ดไม่เช็ดแรงมากจนเกินไปเพราะว่าอาจจะทำให้เส้นผมของเราเกิดความอ่อนแอ  รวมไปถึงการหวีผมในขณะที่ผมเรายังไม่แห้งด้วยเช่นกันดังนั้นในการที่เราจะคุยผมในขณะที่ผมเราเปียกเราควรที่จะใช้หวีห่างในการเพื่อเป็นการถนอมเส้นผมของเราไม่ขาดและเราควรที่จะหวีเบาๆไม่ควรที่จะมีแรงเพราะไม่อย่างนั้นอาจจะทำให้เกิดเส้นผมที่ขาดหลุดร่วงได้นั่นเอง
  • ทำความสะอาดหวี ในการที่เราทำความสะอาดหวีเราควรที่จะทำความสะอาดหวีบ่อยๆเพราะหวีที่เราใช้หวีผมนั้นอาจจะให้เกิดเกี่ยวกับความสะสมของเชื้อโรคเป็นจำนวนมากดังนั้นเราควรที่จะทำความสะอาด  เพราะเวลาเราหวีผมเชื้อโรคก็จะอยู่ตามบริเวณซอกและคราบน้ำมันจากเส้นผมที่ติดอยู่และเมื่อเรานำมาอีกครั้งก็จะมีสิ่งสกปรกที่ติดมาอยู่บนเส้นผมของเราและอาจจะเกิดให้เป็นเชื้อราในหนังหัวได้และอาจเกิดเป็นปัญหาเกี่ยวกับการทำให้ผมของเราขาดหลุดร่วงได้เหมือนกัน
  • ไม่ควรนอนในขณะที่ผมเปียก เราไม่ควรนอนในขณะที่ผมเปียกเพราะว่าอาจจะทำให้เชื้อราบนหนังศีรษะของเราได้นั่นเองดังนั้นใครที่ชื่นชอบในการสระผมในเวลากลางคืนควรที่จะเป่าผมให้แห้งก่อนนอนเพราะไม่อย่างนั้นอาจจะทำให้เชื้อโรคหรือหนังศีรษะเราเกิดอาการเป็นเชื้อราได้และหรือว่าจะเกิดเกี่ยวกับปัญหาผมขาดหลุดร่วงบางได้นั่นเอง
  • การบำรุงผม   เมื่อเส้นผมของเราถูกทำลายไม่ว่าจะเป็นสถานการณ์แบบไหนก็แล้วแต่ดังนั้นเราควรที่จะมีวิธีการในการบำรุงผมเพื่อให้สารอาหารเข้าไปในเส้นผมของเราอย่างเช่นโปรตีน ธาตุเหล็ก วิตามิน เพราะว่าส่วนเหล่านี้ทำให้เส้นผมของเราแข็งแรง และไม่ก่อให้เกิดอาการผมขาดหลุดร่วงบางได้นั่นเอง

 

สนับสนุนโดย  สมัครเว็บหวยฮานอย

อาการปกติที่ลูกน้อยแต่ว่าพ่อแม่คิดไปเอง  

ในการที่เราเป็นคุณพ่อคุณแม่มือใหม่เป็นเรื่องที่เราคิดว่าการที่เรามีลูกเราก็ต้องรู้จักเพื่อที่จะสังเกตลูกน้อยของเรานั่นเองเพราะว่าการที่เราได้เห็นว่ามีอะไรที่ผิดปกติไปบ้างนั่นเอง  การที่เราจะเป็นคนที่สังเกตก็ดีแต่ว่าการที่เราสังเกตมากไปก็ก่อให้เกิดการที่เราคิดไปเองต่างๆนานานั่นเอง และเราไปดูกันว่ามีอะไรที่พ่อแม่ชอบคิดไปเองว่าเราลูกเราจะเป็นนั่นเอง  

  • อาการเกี่ยวกับการที่เราสังเกตว่ามือเท้าของลูกน้อยเรามีสีน้ำเงิน  เป็นเรื่องที่ปกติของเด็กที่พึ่งเกิดนั่นเอง เราไม่ต้องกังวลไปเพราะว่าการที่เราจะเห็นอย่างนี้ก็เพราะว่าเกี่ยวกับเรื่องของระบบการไหลเวียนของเลือดลูกน้อยของเรายังไม่เต็มที่นั่นเองแต่เวลาผ่านไปสักสองวันผิวก็จะเริ่มที่จะมีสีที่แดงมากขึ้นนั่นเอง  
  • ตาเหล่ เมื่อเด็กที่เกิดมาจะมีอาการเกี่ยวกับการที่มองแล้วคนที่เป็นแม่คิดว่าตาของลูกเหล่นั่นเอง เราไม่สามารถที่จะรู้ได้ดังนั้นเราก็ควรที่จะที่รู้ก็ต้องรอให้มีอายุ 6 เดือนขึ้นไปถึงหนึ่งขวบถึงจะรูว่าลูกของเรามีอาการเกี่ยวกับตาเหล่หรือเปล่านั่นเอง  เพราะว่าเราก็เป็นหนึ่งในนั้นเพราะว่าเวลาที่ลูกมองเราเรามีความรู้สึกว่าลูกมองแล้วเกิดอากาตาเหล่นั่นเอง  
  • อาการเกี่ยวกับถุงใต้ตา  การที่ทารกเกิดมาจะมีถุงใต้ตาเป็นเรื่องที่เราบอกเลยว่าปกตินั่นเองเพราะว่าเวลาที่เกิดมานั่นเอง  แต่ว่าพอเมื่อเวลาผ่านมาเป็นอาทิตย์หรือว่าเดือนถุงใต้ตาที่เรามองเห็นก็จะค่อยๆหายไปนั่นเองเพราะว่าเป็นการเจริญเติบโตของลูกน้อย  
  • อารมณ์แปรปรวน  เราไม่ต้องแปลกใจเกี่ยวกับการที่เราจะเห็นว่าเมื่อกี้ยังหัวเราะและยิ้มอยู่เลยแต่พอสักพักจะมีอาการเกี่ยวกับการร้องไห้ แต่ว่าคุณพ่อคุณแม่ไม่ต้องตกใจเพราะว่าเป็นเรื่องที่ปกตินั่นเองของเด็ก เพียงแค่เราปล่อยให้เขานอนหลับให้เพียงพอ  และกินนมอย่างเต็มอิ่มนั่นเองก็ไม่เป็นเรื่องที่หน้าเป็นห่วง  
  • ทารกมีเสียงหายใจที่ดัง  ในการที่ลูกของเราเกิดมาแล้วรู้สึกว่าเขามีเสียงที่หายใจเสียงดังแต่ว่าเมื่อเราได้มีการถามคุณหมอแล้วว่าไม่มีอะไรก็ไม่เป็นอะไร แต่ถ้าเราเช็คแล้วว่าลูกมีเมือก หรือว่ามีน้ำมูกเราก็สามารถที่จะใช้เครื่องดูดจมูกได้นั่นเอง  โดยที่เราสามารถที่จะไปเลือกซื้ออุปกรณ์ได้ที่ตามร้านขายยานั่นเอง 

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย   แนวทางหวยฮานอยวันนี้

การกินอาหารที่ทำให้เราไม่อ้วน 

เมื่อเรานั้นโตขึ้นเราต้องการที่จะมีสุขภาพที่ดีเพราะว่าเรานั้นรู้แล้วว่าการที่เรามีสุขภาพที่ดีนั้นเป็นเรื่องที่ดีต่อร่างกายอย่างมากเพราะว่าการที่เรามีสุขภาพที่ดีจะทำให้เรานั้นสามารถที่จะทำงานได้นานและไม่เป็นโรคที่ทำให้เราเจ็บป่วยได้เพราะว่าการทำงานเราต้องพึ่งเรื่องสุขภาพและร่างกายที่เราต้องรวมไปถึงเรื่องหุ่นที่ดี 

ส่วนใครที่กำลังมองหาว่าเราต้องการที่จะควบคุมเรื่องอาหารการกินและต้องการที่จะได้หุ่นที่ดีด้วยและเรื่องสุขภาพนั้นและการที่เราลดน้ำหนักด้วยส่วนใครที่ต้องการที่จะลดน้ำหนักและสิ่งนั้นเป็นทางเลือกที่ดีอีกวิธีหนึ่งเพราะว่าการที่ที่เราจะลดน้ำหนักนั้นมีอยู่สองวิธีคือ 

การที่เราควบคุมอาหาร  คือการที่เราออกกำลังกาย  จะช่วยให้เรานั้นรู้สึกว่าเราแข็งแรงและถ้าทั้งสองอย่างนี้นั้นเราเราก็ต้องรวมกับกับการที่เราต้องเลือกกินอาหารที่ดีและมีประโยชน์นั้นด้วยเหมือนกัน

แต่ถ้าเรานั้นพอที่จะมีเวลานั้นเราก็ควรที่จะไปออกกำลังกายเหมือนกันเพราะว่าการที่เราออกกำลังกายนั้นเป็นการที่ช่วยในเรื่องของการเผาผลาญไขมันนั่นเอง  และเป็นการที่ช่วยในเรื่องของการควบคุมน้ำหนักที่เราต้องการและเรายังจะได้ทั้งสุขภาพที่ดีและหุ่นรูปร่างที่เราต้องการอีกด้วย  วันนี้นั้นเราจะมาบอกวิธีการที่เราเลือกการกินอาหารที่เราสามารถที่จะให้การควบคุมอาหารและหุ่นรูปร่างของเรานั้นด้วย  

การที่เราควบคุมอาหารนั้นไม่ใช่การที่เราอดอาหาร 

เราคิดว่าพอเรานั้นพูดถึงเรื่องการลดน้ำหนักส่วนใหญ่ก็จะคิดเป็นการที่เราอดอาหารแต่ว่าที่จริงนั้นแล้วนั้นไม่ใช่  เพราะว่าการที่เรากินอาหารแบบว่าอดนั้นเป็นเรื่องที่เราคิดผิด  การที่เราลดอาหาร  จากที่เรากินเยอะเราก็ค่อยลดอาหารนั้นลงมาไม่ใช่การที่เราอดอาหาร  เพราะว่าร่างกายของเรานั้นต้องการสารอาหารที่ครบถ้วย  เพราะว่าร่างกายของเราทำงาน  ดังนั้นเราควรที่จะเลือกการที่เรากินอาหารให้น้อยลง ไม่ใช่อดอาหารนั่นเอง 

ดังนั้นการที่เรากินอาหารเราก็ควรที่จะกินอาหารให้ครบห้าหมู่และเราก็ต้องพยายามที่จะหลีกเลี่ยงการที่เรากินอาหารที่เป็นไขมันเพราะว่าการที่เรากินอาหารที่เป็นไขมันนั้นมากเกินไปจะให้ระบบเผาผลาญของเรานั้นทำงานไม่หมดและก็จะกลายมาเป็นการที่เราอ้วนและลงพุงอย่างที่เราเห็นนั่นแหล่ะ  เพราะฉะนั้นเราก็ควรที่จะเลือกการกินไขมันนั้นน้อยที่สุด 

 

 

สนับสนุนโดย  รวมเว็บหวยออนไลน์

อยู่ร่วมกับคนหูตึงยังไงดี? 

อาจจะดูเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่การอยู่ร่วมกับคนหูตึงนั้น ต้องอาศัยความเข้าใจเป็นอย่างมาก ไม่อย่างนั้นจะเกิดความเครียดกับคนที่ต้องดูแล ส่วนคนที่หูตึงก็จะน้อยใจและรู้สึกว่าตัวเองเป็นภาระ จึงจำเป็นต้องทำความเข้าใจกันให้ชัดเจน ว่าจะหาทางแก้ไขกันยังไงได้บ้าง ข้อแรกเลยก็คือว่าหาทางรักษากับผู้เชี่ยวชาญ ให้หมอตรวจดูก่อนว่าหูตึงเพราะอะไร เพราะขี้หูมาอดตันเยอะเกินไป หรือเพราะสาเหตุอื่นที่ไม่มีทางรักษาได้ 

ในกรณีที่ดูดขี้หูออกได้ ก็จะช่วยให้การได้ยินดีขึ้นมา จนอาจเป็นปกติ แต่บางคนเช่นในเคสของผู้สูงอายุ ก็จะเป็นไปตามช่วงวัยที่เซลล์ประสาทส่วนหูจะเสื่อมลง จึงจำเป็นต้องใช้เครื่องช่วยฟัง มาเป็นตัวช่วยให้พูดคุยสื่อสารกันชัดเจนมากขึ้น ซึ่งก็ไม่ใช่ว่าคนแก่จะยอมใส่เครื่องช่วยฟังเสมอไป เพราะเค้าอาจรู้สึกว่ากำลังเป็นคนพิการ เป็นคนที่มีปัญหา

แต่ความจริงแล้วเครื่องช่วยฟัง มีประโยชน์ในด้านการใช้งานมากๆ ช่วยให้การสื่อสารถูกต้องชัดเจนตามที่เราอยากจะส่งออกไป เพราะมีลำโพงขนาดเล็กจิ๋ว ที่ทำหน้าที่ขยายเสียงให้ดังขึ้น คนที่ใส่เครื่องนี้ จากที่เคยได้ยินเสียงเหมือนอยู่ไกล ก็จะทำให้ได้ยินเสียงชัดเจนมากขึ้น 

การกำหนดขอตกลงร่วมกันถือเป็นทางออกที่ดูจะสบายใจกันทั้งสองฝ่าย ฝั่งคนหูตึงก็บอกข้อเสนอของตัวเองไปว่าถ้าไม่อยากให้ตะโกน ต้องอ่านปากคนดูแลอย่างจริงจัง หรือคนที่ดูแลก็ต้องมีความเข้าอกเข้าใจให้มากขึ้น และพยายามไม่ตะโกนเสียงดังในกรณีที่ไม่จำเป็น 

กำลังใจเป็นสิ่งสำคัญมากกับการดูแลผู้ป่วยหูตึง เพราะส่วนใหญ่จะยังสามารถช่วยเหลือตัวเองได้ แต่การได้ยินเสียงไม่ชัด เราจะหงุดหงิดเพิ่มขึ้นมาในทันทีโดยที่ไม่รู้ตัว และอยากให้หลายคนมองว่าเรื่องนี้ไม่ใช่ปัญหาของใครคนใดคนหนึ่ง เราไม่ควรมองว่าใครเป็นภาระ เราเองอาจเป็นคนที่หูตึงในตอนแก่ก็ได้ เพราะฉะนั้นควรอยู่ด้วยความเข้าใจ ให้กำลังใจกันและกัน ถ้าเป็นไปได้เดี๋ยวนี้มีเครื่องช่วยฟังราคาไม่แพงขายอยู่เยอะมาก

เลือกแบบที่เราคิดว่าเหมาะกับตัวเอง บางรุ่นมีดีไซน์ออกมาให้เหมือนกับบลูทูธโทรศัพท์ คนอื่นจะไม่รู้ว่าเราหูมีปัญหา แต่จะคิดว่าเราแค่ใส่บลูทูธคุยโทรศัพท์เฉยๆ แถมราคาก็ยังไม่แพงมากเหมือนแต่ก่อน มีให้เลือกหลายร้าน และแต่ละร้านก็มีผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำแนะนำอยู่ตลอด ไม่ต้องกลัวว่าจะใช้เครื่องไม่เป็น แถมการได้ยินเสียงจากคนอื่นชัดเจน เราเองก็จะมีความมั่นใจมากขึ้น ไม่ต้องหลบหน้าหรือหลบสายตาใคร เพราะกลัวว่าจะไม่ได้ยินคำที่คู่สนทนาเค้าคุยมา 

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย  ซื้อหวยฮานอยได้ที่ไหน

วิธีป้องกันลูกน้อยจากฝุ่น PM2.5

 เนื่องจากปัญหาฝุ่นพิษหรือ ฝุ่น PM2.5 กำลังเป็นภัยเงียบที่กำลังคุกคามคนทั้งประเทศไม่ว่าจะทำอะไรหรืออยู่ที่ไหน ต่างก็ได้รับผลกระทบจากฝุ่นพิษนี้ด้วยกันทั้งหมด ซึ่งเราทราบกันดีอยู่แล้วว่าผลร้ายที่จะตามมาจะมีผลต่อสุขภาพการหายใจของเรารวมถึงสุขภาพปอดของเราอย่างมาก ยิ่งในเด็กเล็กๆแล้วการที่ต้องดูดฝุ่นพิษ PM2.5 เข้าไปเรื่อยๆ

จะมีผลต่อการพัฒนาของสมองซึ่งจะทำให้มีการพัฒนาการช้า เด็กจะโง่มากขึ้น ดังนั้นเราในฐานะผู้ปกครอง และเป็นพ่อแม่ของเด็กจึงควรหาวิธีการป้องกันฝุ่น PM2.5 ให้ห่างไกลจากลูกน้อยของเรา เพื่อที่จะได้ไม่มีปัญหาสุขภาพและผลเสียทางด้านสมองตามมาภายหลัง มาดูกันว่าเราสามารถป้องกันอย่างไรได้บ้าง

  1. คอยติดตามข่าวสารหรือทำการดาวน์โหลด Application ที่สามารถวัดค่า ฝุ่น PM2.5 ได้ว่าตรงบริเวณที่เราอยู่หรือมีบริเวณไหนที่มีค่า ฝุ่น PM2.5 สูงบ้างซึ่งหากเราทราบแล้วเราก็ไม่ควรพาลูกของเราออกไปในบริเวณที่ค่าฝุ่น PM2.5 มีค่าสูงเพื่อความปลอดภัยของลูก
  2. หากหลีกเลี่ยงไม่ได้ จำเป็นต้องเดินทางไปยังจุดที่มีค่า ฝุ่น PM2.5 สูงให้หาหน้ากากอนามัยที่สามารถป้องกันฝุ่น PM2.5ได้และมีขนาดที่เหมาะสมกับเด็กมาใส่ให้เด็กก่อนออกจากอาคาร
  3. สำหรับในบ้านเรือนและตัวอาคารที่เราอยู่อาศัย เราควรจะมีการติดตั้งที่กรองฝุ่น ที่สามารถกรองฝุ่นระดับ ฝุ่น PM2.5 ได้หรือใช้เครื่องฟอกอากาศที่มีระบบการกรองฝุ่น PM2.5
  4. กินอาหารและผลไม้ที่มีวิตามินซีและอี และโอเมก้า 3 
  5. งดให้เด็กออกไปวิ่งเล่นนอกบ้านเป็นการชั่วคราวจนกว่าจะหมดปัญหาเกี่ยวกับฝุ่นพิษ
  6. เลิกสูบบุหรี่ในบ้านและในอาคาร หรือหากเป็นไปได้ก็ให้เลิกสูบบุหรี่ถาวรได้เลย
  7. ทำความสะอาดบ้านให้บ่อยขึ้น ถูพื้นด้วยน้ำยาดันฝุ่นจะช่วยลดการจับตัวของฝุ่นได้ดีขึ้น

นี่เป็นเพียงแค่การดูแลลูกน้อยให้ห่างไกลจากฝุ่น PM2.5 เบื้องต้นเท่านั้น แต่หากต้องการให้ตัวเราและลูกน้อยปลอดภัยจากปัญหาพิษฝุ่น PM2.5 พวกเราทุกคนควรช่วยกันลดมลพิษด้วยการงดสูบบุหรี่ ไม่เผาขยะหรือเผาหญ้า และไม่ควรนำรถที่มีควันดำออกไปขับตามท้องถนน และควรนำรถเข้าศูนย์เพื่อตรวจสอบสภาพรถ หากพวกเราสามารถช่วยลดสาเหตุที่จะทำให้เกิดฝุ่น PM2.5 ได้แล้วคาดว่าปัญหาฝุ่น PM2.5 ก็จะค่อยๆลดลงและหายไปในที่สุด พวกเราก็จะได้กลับมาใช้ชีวิตข้างนอกบ้าน พาลูกไปวิ่งเล่นที่สวนสาธารณะหรือออกไปทำกิจกรรมกับทางโรงเรียนได้ปกติ ไม่ต้องมานั่งกลัวว่าจะมีปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพอย่างที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน

 

สนับสนุนโดย  Kardinal stick รีวิว

ต่อมบาร์โธลิน ภัยของผู้หญิง


ต่อมบาร์โธลิน เป็นต่อมในอวัยวะสืบพันธุ์ผู้หญิง ที่ปฏิบัติหน้าที่ผลิตเมือกออกมา เมื่อมีการทำให้มีการเกิดความปรารถนาทางเพศ เพื่อช่วยสำหรับการหล่อลื่น โดยลักษณ์ของต่อมบาร์โธลินนี้จะคือต่อมขนาดเล็กๆ คล้ายกับเม็ดถั่ว อยู่รอบๆปากช่องคลอดทั้งยังฝั่งซ้ายรวมทั้งขวา โดยในต่อมบาร์โธลินนี้จะมีท่อยาวราว 0.5-1.5 เซนติเมตร ยื่นเข้าไปในรอบๆ ช่องคลอดเพื่อปฏิบัติภารกิจรอส่งน้ำเมือกเข้าไปหล่อลื่นในมดลูกของผู้หญิง

ต่อมบาร์โธลินอักเสบ หรือ ที่บางบุคคลรู้จักในชื่อ “โรคฝีที่อวัยวะเพศหญิง” โดยธรรมดาพวกเราจะไม่สามารถที่จะลูบคลำเจอต่อมบาร์โธลินได้ แต่ว่าถ้าหากว่ามีการตันของต่อมบาร์โธลิน จะก่อให้มีอาการบวมขึ้น เนื่องจากเมือกด้านในท่อไม่สามารถที่จะส่งออกมายังข้างนอกได้ เมื่อสะสมนานขึ้นจนถึงแปลงเป็นถุงน้ำของต่อมบาร์โธลิน ซึ่งบางทีก็อาจจะลูบคลำได้ ซึ่งมักไม่เจ็บหรือไม่ปวด ถ้าเกิดมีการติดโรคก็จะกลายเป็นฝีขึ้น

อาการที่ชี้ว่าเป็นต่อมบาร์โธลินอักเสบ
1. ลูบคลำเจอก้อนเนื้อรอบๆ ช่องคลอด
2. ก้อนเนื้อที่เจอรอบๆ ช่องคลอดจะมีขนาดใหญ่ขึ้น แล้วก็มีการระคายเคือง เมื่อพวกเราเดิน บางรายจะรู้สึกปวดที่ปากช่องคลอด
3. ในกรณีที่ต่อมบาร์โธลินอักเสบร้ายแรงนั้น จะมีลักษณะอาการบวม แดง รู้สึกแสบร้อน ปวดอย่างหนักที่ปากช่องคลอด แล้วก็มีหนอง ร่วมด้วยลักษณะของการมีไข้ขึ้น หนาวสั่น

กรรมวิธีการรักษาต่อมบาร์โธลินอักเสบ
ในระยะเริ่มต้นที่ต่อมบาร์โธลินจะเกิดอาการที่แปลกๆ ขึ้น บางครั้งอาจจะไม่มีการแสดงอาการใดมากเท่าไรนัก ถ้าลูบคลำอวัยวะสืบพันธุ์แล้วพบว่ามีถุงน้ำ รอบๆ ปากช่องคลอด ไม่มีลักษณะของการเจ็บปวด บางทีอาจกระทำการทดลองรักษาโดยตัวเองดูก่อน ด้วยการแช่น้ำอุ่นวันละ 2 ครั้ง ทีละ 20 นาที โดยประมาณ 2-3 วัน ซึ่งความร้อนอาจจะเป็นผลให้ถุงน้ำยุบลงได้ ถ้ามีลักษณะอาการปวด บวม รวมทั้งมีขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ควรจะไปตรวจกับสูตินรีแพทย์เพื่อวิเคราะห์ และเริ่มการรักษา

วิธีการรักษา อาจเริ่มต้นจากการใช้ยาในการฆ่าเชื้อ การเจาะถุงน้ำหรือบางทีอาจจะต้องผ่าตัดรักษา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในรายที่ฝีมีขนาดใหญ่แล้วก็เป็นซ้ำเสมอๆ

ผงชูรส อันตรายจริงหรือ?

การรับประทานผงชูรสมากๆ ไม่ได้แปลว่าจะทำให้ผมร่วง เนื่องจากมีงานวิจัยพิสูจน์แล้วว่าความเชื่อนี้ไม่ใช่เรื่องจริง อาจเป็นการเชื่อมโยงอาการต่างๆ จากอาหาร จนทำให้ผงชูรสกลายเป็นจำเลย แต่อย่าพึ่งสบายใจไป เพราะผงชูรสก็มีอันตรายเหมือนกัน

อันตรายของผงชูรส
– ทำลายสมองส่วนที่ควบคุมการเจริญเติบโต
– ทำลายระบบสืบพันธุ์ ระบบประสาทตา
– อาจเป็นต้นเหตุของมะเร็ง
– เป็นอันตรายต่อหญิงมีครรภ์ ที่อาจส่งผลกระทบต่อการเจริญเติบโตของทารก
ทั้งนี้ อันตรายที่กล่าวมาไม่ใช่ว่ากินผงชูรสแล้วจะเป็นเลย เพราะว่าอันตรายนั้นจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อเราได้รับประทานผงชูรสเข้าไปสู่ร่างกายในปริมาณที่ “มากเกินไป” เท่านั้น

ทานผงชูรสเท่าไร ถึงจะไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย
ในผู้ที่ยังติดการปรุงอาหารโดยใช้ผงชูรสอยู่นั้น แนะนำให้ปรุงอาหารในแต่ละเมนูและทั้งวันรวมแล้วไม่เกินวันละ 2 ช้อนชา แต่ที่จริงมันก็เป็นเรื่องที่ไม่สามารถควบคุมได้หากเราไม่ได้ทำอาหารด้วยตัวเองในทุกมื้อ อย่างไรก็ควรเลือกทานจะดีกว่า หรือหากต้องการให้รสชาติของอาหารที่ความอร่อยกลมกล่อมใกล้เคียงกับการใส่ผลชูรส สามารถใส่วัตถุดิบจากธรรมชาติได้ เช่น สาหร่าย น้ำต้มกระดูก เป็นต้น
แม้ว่าเรื่องผงชูรสทำให้ผมร่วงจะเป็นเรื่องไม่จริง แต่ที่ผู้ใหญ่ไม่ให้เราทานผงชูรสมากเกินไปตอนเด็กๆ ก็เป็นคำเตือนหรือคำพูดที่ควรฟังไว้ เพราะในเด็กซึ่งยังไม่มีภูมิคุ้มกันขนาดนั้น และด้วยพื้นฐานของร่างกายที่ต่างกับผู้ใหญ่จึงมีโอกาสที่จะเสี่ยงมากกว่า และถึงแม้ว่าผงชูรสจะแฝงอันตรายเอาไว้มากมาย แต่หากใช้ในปริมาณที่เหมาะสม ก็สามารถให้ประโยชน์กับคนทานอย่างเราๆ ได้เหมือนกัน

กินของดิบๆ เสี่ยงเป็นโรคไข้หูดับ

ไข้หูดับ ระบาดในไทย พบผู้ป่วย-เสียชีวิต โดยเฉพาะภาคเหนือ อีสาน
สถานการณ์โรคไข้หูดับในประเทศไทยพบผู้ป่วย 200 รายจาก 25 จังหวัด ในปี 2562 ซึ่งจำนวนผู้ป่วยคิดเป็นอัตรา 0.31 ต่อประชากรแสนคน ซึ่งจาก 200 คน พบว่าเสียชีวิตทั้งหมด 19 ราย และผู้ป่วยส่วนใหญ่พบในกลุ่มผู้สูงอายุตั้งแต่ 65 ปีขึ้นไป

โรคไข้หูดับ เป็นผลมาจากการบริโภคเนื้อหมูดิบ
นายแพทย์ธีรวัฒน์ วลัยเถียร ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 7 จ.ขอนแก่น กล่าวว่า ฟาร์มหมูจะมีความชื้นมากในช่วงฤดูฝน และด้วยสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสมนี้ จึงอาจทำให้หมูป่วยได้ง่ายและติดเชื้อกันเองภายในฟาร์ม จึงอยากเตือนให้ประชาชนระวังในการปรุงอาหารด้วยการทำเมนูที่หมูดิบ เลือดหมูดิบ หรือหรือกึ่งสุกกึ่งดิบ โดยเฉพาะเมนู ลาบก้อยหลู้ เพราะเสี่ยงต่อการติดเชื้อและป่วยเป็นโรคไข้หูดับ

โรคไข้หูดับ มีสาเหตุจากอะไร?
เชื้อแบคทีเรียที่มีชื่อว่า สเตรปโตคอคคัสซูอิส (Streptococcussuis) เป็นเชื้อที่ก่อให้เกิดโรคไข้หูดับ ซึ่งเชื้อนี้สามารถติดต่อมาสู่คนได้ โดยเชื้อดังกล่าวจะทำลายเยื่อหุ้มสมอง ทำให้เกิดภาวะเยื่อหุ้มสมองอักเสบ ติดเชื้อในกระแสเลือด และสูญเสียการได้ยิน โดยเชื้อนี้จะอยู่ในทางเดินหายใจของหมู และอยู่ในเลือดของหมูที่กำลังป่วยการติดเชื้อมาสู่คนเกิดจากการสัมผัสโดยตรง เช่น ติดทางบาดแผลที่ผิวหนัง การกินเนื้อหรือเลือดหมูที่ไม่สุก เป็นต้น

โรคไข้หูดับ มีอาการอย่างไร?
อาการที่พบในคนที่ติดเชื้อ ได้แก่
1. มีไข้ ปวดศีรษะ

2. คอแข็ง คลื่นเหียน อาเจียน

3. บางรายแสดงอาการไข้ร่วมกับมีผื่น

4. หลอดเลือดอักเสบ

5. อุจจาระร่วง

6. บางรายติดเชื้อในกระแสเลือดอย่างรุนแรง

7. บางรายติดเชื้อที่เยื่อหุ้มหัวใจ เยื่อหุ้มสมอง รุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตจากการติดเชื้อในกระแสเลือดได้

8. สำหรับผู้ป่วยที่รอดชีวิต แต่ก็ไม่สามารถที่จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติได้ยังคงมีความพิการหลงเหลืออยู่ เช่น ประสาทหูทั้ง 2 ข้างอักเสบ และเสื่อมจนหูหนวกถาวร และเป็นอัมพาตครึ่งซีก

โรคไข้หูดับ ป้องกันอย่างไร?
การป้องกันสำหรับผู้มีฟาร์มหมู คือ
1. หมั่นทำความสะอาดฟาร์มด้วยน้ำยาทำลายเชื้อในโรงเรือน

2. ผู้ปฏิบัติงานในฟาร์ม หรือโรงงานฆ่าสัตว์โรงชำแหละ ควรปฏิบัติให้ถูกต้องตามหลักสุขาภิบาลได้แก่ สวมรองเท้าบู๊ท หรือสวมถุงมือสวมแว่นตาป้องกันในระหว่างปฏิบัติงาน

3. หากมีบาดแผลต้องปิดแผลให้มิดชิด และล้างมือหลังสัมผัสกับหมูทุกครั้ง

4. โดยธรรมชาติเชื้อจะถูกทำลายด้วยความร้อน ดังนั้นจึงควรกินอาหารแบบปรุงสุก จึงจะลดโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดโรคในคน

ข้อควรระวังสำหรับผู้ป่วยโรคไข้หูดับ
ผู้ป่วยโรคไข้หูดับที่มีอาการไข้สูงปวดศีรษะอย่างรุนแรง เวียนศีรษะจนทรงตัวไม่ได้ อาเจียน คอแข็งหูหนวกท้องเสียปวดเมื่อยกล้ามเนื้อภายหลังสัมผัสหมูที่ป่วยหรือหลังกินอาหารที่ปรุงมาจากเนื้อหมูดิบ หรือสุกๆ ดิบๆ ให้รีบพบแพทย์ทันที และบอกประวัติการกินหมูดิบให้ทราบ เพราะหากมาพบแพทย์เร็วจะช่วยลดอัตราการหูหนวก และการเสียชีวิตได้
หากประชาชนมีข้อสงสัยสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรคโทร. 1422